สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านและผู้พิมพ์ในพันทิป...
วันนี้ดิฉันมีเรื่องแชร์ประสบกราณ์ชีวิต ทีเพิ่งผ่านมาไม่นาน หรือไม่อาจจะเป็นเรื่องที่ผ่านมาในวันนี้ก็ได้...
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะค่ะ ดิฉัน ตะวัน (นามสมมุติ) นักเรียนมัธยมธรรมดา ที่เพิ่งจบ ม.6 มาหมาดๆ ตะวันเป็นคนจังหวัดไม่ใกล้ไม่ไกลจากเชียงใหม่ค่ะ (ขอสงวนชื่อจังหวัด) ตะวันได้มีโอกาสรับโควต้าเรียนต่อที่เชียงใหม่ เลยคิดว่าจะย้ายเข้ามาอยู่หอก่อน มหาลัยจะเปิด อาจจะทำงานพิเศษแถวๆเชียงใหม่ เพื่อจะชินกับเมืองมากขึ้น
เรื่องต่อไปที่จะเล่า อาจจะเป็นบทเรียนสำคัญของตะวันอีกบทหนึ่ง ที่ต้องจดจำและเจ็บปวดไปอีกนาน....
ตะวันมีโอกาสได้รู้จักกับรุ่นพี่ที่เรียนมหาลัยแห่งหนึ่ง (ตรงข้าม มช ) สมมุติว่าชื่อ พี่ต้น นะค่ะ
พี่ต้นตอนนี้เรียนอยู่ ปี3 พี่ต้นกับตะวันรู้จักกันมา 4 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ตะวันอยู่ม.3ที่จังหวัดๆหนึ่ง ที่รู้จักกันได้ ก็เป็นรื่องที่ธรรมดาปกติง่ายๆ คือรู้จักทางโซเชียลหนึ่งๆ ง่ายๆคือ facebook ละกัน ตอนนั้นตะวันเห็นว่า พี่ต้นรูปโปรไฟล์ใส่ชุด รด ซึ้งดูดีมากๆ ไอ่เราก็เป็นธรรมดาที่ชอบไปเอดคนหน้าตาดี (บางครั้งๆ) อยู่แล้ว
อีกอย่างเขาจบ ยุพราช ด้วย พอได้เอดและคุย ทำให้มีอะไรที่คุยกันเข้าใจกันมาตลอดๆ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำหน้าที่แฟนกันดีๆสักครั้ง เป็นเพราะว่า พี่เขาเรียน และตอนนั้นตะวันก็ยังไม่จบ ม.6 ทำให้ไปมาหาสู่ลำบาก เลยต้องได้แต่คุยface ไม่ก็โทรคุยกัน แต่สิ่งที่ลืมไปสำคัญก็คือ.... พี่ต้นและตะวันไม่เคยเจอหน้ากันเลยนะค่ะ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคย ก็อย่างที่บอก อย่คนละจังหวัด อะไรๆก็ไม่อำนวยเท่าไร แต่พี่ต้นกับตะวันก็คุยกันมาทุกๆ วัน จนจะ 4 ปี ระหว่าง4 ปี มันมีอะไรอีกหลายๆ อย่างที่อธิบายไม่ถูก ในระหว่าง 4 ปี ไม่ใช่ว่าตะวันไม่มีใครเข้ามาคุยนะค่ะ มีมาตลอดๆ และคบกันเปิดเผยต่อหน้า face ก็มี ไม่ใช่ว่าตะวันทำอยู่ฝ่ายเดียวนะค่ะ พี่ต้นก็ทำเช่นกัน แต่ระหว่างนั้น พี่ต้นกับตะวันไม่คิดไรมาก เพราะเห็นว่า ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน เลยมาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่กลับมานั่งคุยปรึกษาทางโทรศัพย์ว่า คนที่พี่ต้นและตะวันคุยเป็นคนยังไงบ้าง? ดีไหม? ตรงใจหรือเปล่า? ถามแบบนี้กันมากกว่า ไม่เคยถามกันเลยว่า ตกลงพี่ต้นและตะวันเป็นอะไรกัน? แต่ที่คุยมาได้4ปีนี้เป็นเพราะว่าเราต่างเคารพความคิดและอารมณ์ซึ้งกันและกัน ต่างคนต่างเข้าใจกันมากกว่า เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับพี่เขานะ พี่เขาก็คิดเหมือนตะวันเช่นกัน
แต่เรื่องมันมีอยู่วันหนึ่ง ... ตอนนั้นตะวันอยู่ ม.6 ใกล้ๆ จะจบอยู่แล้ว คืออยู่ในช่วงที่วุ่นๆกับหาที่เรียนและสอบต่างๆ
ตะวันได้มีโอกาสคุยกับ นร.ชาย ต่าง รร คนหนึ่ง (สมมุติชื่อ เอ) เอเป็นนักเรียนที่เรีนเก่งคนหนึ่ง และเรียนอยู่ รร ชื่อดังพอสมควร เหตุที่ตะวันกับเอคุยได้ ก็เพระfaceอีกเช่นเคย แต่เอกับตะวันเป็นเพื่อนด้วยกันมานานแล้ว แต่ไม่เคยเห็นหน้าในfaceสักเท่าไร .... บังเอิญว่าอยู่ในช่วง ม.6 และ กำลังจะหาที่เรียนเหมือนกัน เลยมีโอกาสคุยเรื่องเรียนกันมากขึ้น ทำให้ร้สึกว่า ตะวันดีกับเอมากๆ เอเขาเก่งฟิสิกส์ คอยสอนตะวันผ่านโทรศัพย์ ไม่ก็ วิดิโอคอลตลอดๆ (ตะวันก็เรียนสายวิทย์คณิต) เป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆ จนจะใกล้จบ ม.6 ก็มีโอกาสได้พบปะเจอกันมากขึ้นหลังเลิกเรียน แต่พอนานๆไป เขาก็เริ่มเปลี่ยน เหมือนว่าเขาจะเพ้อถึง ความรักเก่าๆ บางอย่าง และมีคืนหนึ่ง ตะวันโทรไปตอนดึก ซึ้งตอนนั้นช่วงสอบ เลยไม่ได้โทรมาหากันหลายวัน แล้วปรากฏว่า... ติดรอสาย...
ตะวันก็คิดว่า น่าจะคุยเรื่องที่เขาจะสอบ นายสิบ ก็ได้ เพราะเขาเครียดกัยเรื่องนี้มากๆ แต่ยังไงตะวันก็ไม่สบายใจ เพราะว่าเอเป็นคนทุ่มให้กับการเรียนมากๆ เลยปรึกษาเพื่อนๆของเอ ว่าเอเป็นยังไง อยู่ รร สบายดีไหม? เพราะว่า เอกะตะวันอยู่คนละ รร เลยไม่รู้ว่าตอนเขาอยู่ รร กับต่อหน้าที่คุยกัน เขาต่างกันหรือเปล่า ? แต่เพื่อนๆ ของเอ ก็ต่างบอกว่า เอก็เป็นคนแบบนี้แหละ อย่าคิดมากๆ ตะวันเลยไม่มีอาการสงสัยเลย ว่าแท้จริงแล้ว เขากลับไปคุยกับแฟนเก่าของเขา.... และวันนั้น ตะวันได้มีโอกาสฟ้อนที่งานเชียงใหม่ (เป็นช่างฟ้อนของ รร ) แล้วได้นอนค้างบ้านอาจารย์ที่จัดงาน และคืนนั้น ตะวันก็โทรไปอีก แล้วไม่รับสาย แถมตัดสายทิ้ง พิมพ์ข้อความใน face ก็ไม่ตอบ เลยตัดสินใจพูดคำแรงๆ เข้าไปใน ข้อความแชท ด้วยอารมณ์ที่ว่า เครียด และอยากรู้คำตอบจากปากเขาเองโดยตรงๆ และปรากฏว่า เขาเป็นอย่างที่ตะวันคิดไว้ เขาได้แต่ขอโทษผ่านบทความแชท ที่ไม่มีน้ำเสียง อยากบอกมาก ว่าวันนั้นทั้งเหนื่อย ทั้งหอบ งานฟ้อนเลิกดึกมาก ไหนต้องมาเคลียร์เรื่องเออีก ตอนนั้นตะวันคิดอะไรมากไม่ได้ ไม่อยากฟุ้งซ่าน เพราะตะวันมารับงาน ไม่อยากให้เพื่อนๆ ต้องมาเครียดเพราะตะวัน เลยได้แต่ทำใจ ปล่อยใจไปชาๆ กับข้อความขอโทษที่ฟังไม่ขึ้น.. (เดี๋ยวมาอ่านต่อนะค่ะ

)
ทิ้งรักดีๆ4ปีเพื่อเลือกไปคุยกับ นศ.ชาย มช. เพียงคนๆเดียว
วันนี้ดิฉันมีเรื่องแชร์ประสบกราณ์ชีวิต ทีเพิ่งผ่านมาไม่นาน หรือไม่อาจจะเป็นเรื่องที่ผ่านมาในวันนี้ก็ได้...
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะค่ะ ดิฉัน ตะวัน (นามสมมุติ) นักเรียนมัธยมธรรมดา ที่เพิ่งจบ ม.6 มาหมาดๆ ตะวันเป็นคนจังหวัดไม่ใกล้ไม่ไกลจากเชียงใหม่ค่ะ (ขอสงวนชื่อจังหวัด) ตะวันได้มีโอกาสรับโควต้าเรียนต่อที่เชียงใหม่ เลยคิดว่าจะย้ายเข้ามาอยู่หอก่อน มหาลัยจะเปิด อาจจะทำงานพิเศษแถวๆเชียงใหม่ เพื่อจะชินกับเมืองมากขึ้น
เรื่องต่อไปที่จะเล่า อาจจะเป็นบทเรียนสำคัญของตะวันอีกบทหนึ่ง ที่ต้องจดจำและเจ็บปวดไปอีกนาน....
ตะวันมีโอกาสได้รู้จักกับรุ่นพี่ที่เรียนมหาลัยแห่งหนึ่ง (ตรงข้าม มช ) สมมุติว่าชื่อ พี่ต้น นะค่ะ
พี่ต้นตอนนี้เรียนอยู่ ปี3 พี่ต้นกับตะวันรู้จักกันมา 4 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ตะวันอยู่ม.3ที่จังหวัดๆหนึ่ง ที่รู้จักกันได้ ก็เป็นรื่องที่ธรรมดาปกติง่ายๆ คือรู้จักทางโซเชียลหนึ่งๆ ง่ายๆคือ facebook ละกัน ตอนนั้นตะวันเห็นว่า พี่ต้นรูปโปรไฟล์ใส่ชุด รด ซึ้งดูดีมากๆ ไอ่เราก็เป็นธรรมดาที่ชอบไปเอดคนหน้าตาดี (บางครั้งๆ) อยู่แล้ว
อีกอย่างเขาจบ ยุพราช ด้วย พอได้เอดและคุย ทำให้มีอะไรที่คุยกันเข้าใจกันมาตลอดๆ แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ทำหน้าที่แฟนกันดีๆสักครั้ง เป็นเพราะว่า พี่เขาเรียน และตอนนั้นตะวันก็ยังไม่จบ ม.6 ทำให้ไปมาหาสู่ลำบาก เลยต้องได้แต่คุยface ไม่ก็โทรคุยกัน แต่สิ่งที่ลืมไปสำคัญก็คือ.... พี่ต้นและตะวันไม่เคยเจอหน้ากันเลยนะค่ะ จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เคย ก็อย่างที่บอก อย่คนละจังหวัด อะไรๆก็ไม่อำนวยเท่าไร แต่พี่ต้นกับตะวันก็คุยกันมาทุกๆ วัน จนจะ 4 ปี ระหว่าง4 ปี มันมีอะไรอีกหลายๆ อย่างที่อธิบายไม่ถูก ในระหว่าง 4 ปี ไม่ใช่ว่าตะวันไม่มีใครเข้ามาคุยนะค่ะ มีมาตลอดๆ และคบกันเปิดเผยต่อหน้า face ก็มี ไม่ใช่ว่าตะวันทำอยู่ฝ่ายเดียวนะค่ะ พี่ต้นก็ทำเช่นกัน แต่ระหว่างนั้น พี่ต้นกับตะวันไม่คิดไรมาก เพราะเห็นว่า ยังไม่ได้เป็นอะไรกัน เลยมาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวกันไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่กลับมานั่งคุยปรึกษาทางโทรศัพย์ว่า คนที่พี่ต้นและตะวันคุยเป็นคนยังไงบ้าง? ดีไหม? ตรงใจหรือเปล่า? ถามแบบนี้กันมากกว่า ไม่เคยถามกันเลยว่า ตกลงพี่ต้นและตะวันเป็นอะไรกัน? แต่ที่คุยมาได้4ปีนี้เป็นเพราะว่าเราต่างเคารพความคิดและอารมณ์ซึ้งกันและกัน ต่างคนต่างเข้าใจกันมากกว่า เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับพี่เขานะ พี่เขาก็คิดเหมือนตะวันเช่นกัน
แต่เรื่องมันมีอยู่วันหนึ่ง ... ตอนนั้นตะวันอยู่ ม.6 ใกล้ๆ จะจบอยู่แล้ว คืออยู่ในช่วงที่วุ่นๆกับหาที่เรียนและสอบต่างๆ
ตะวันได้มีโอกาสคุยกับ นร.ชาย ต่าง รร คนหนึ่ง (สมมุติชื่อ เอ) เอเป็นนักเรียนที่เรีนเก่งคนหนึ่ง และเรียนอยู่ รร ชื่อดังพอสมควร เหตุที่ตะวันกับเอคุยได้ ก็เพระfaceอีกเช่นเคย แต่เอกับตะวันเป็นเพื่อนด้วยกันมานานแล้ว แต่ไม่เคยเห็นหน้าในfaceสักเท่าไร .... บังเอิญว่าอยู่ในช่วง ม.6 และ กำลังจะหาที่เรียนเหมือนกัน เลยมีโอกาสคุยเรื่องเรียนกันมากขึ้น ทำให้ร้สึกว่า ตะวันดีกับเอมากๆ เอเขาเก่งฟิสิกส์ คอยสอนตะวันผ่านโทรศัพย์ ไม่ก็ วิดิโอคอลตลอดๆ (ตะวันก็เรียนสายวิทย์คณิต) เป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆ จนจะใกล้จบ ม.6 ก็มีโอกาสได้พบปะเจอกันมากขึ้นหลังเลิกเรียน แต่พอนานๆไป เขาก็เริ่มเปลี่ยน เหมือนว่าเขาจะเพ้อถึง ความรักเก่าๆ บางอย่าง และมีคืนหนึ่ง ตะวันโทรไปตอนดึก ซึ้งตอนนั้นช่วงสอบ เลยไม่ได้โทรมาหากันหลายวัน แล้วปรากฏว่า... ติดรอสาย...
ตะวันก็คิดว่า น่าจะคุยเรื่องที่เขาจะสอบ นายสิบ ก็ได้ เพราะเขาเครียดกัยเรื่องนี้มากๆ แต่ยังไงตะวันก็ไม่สบายใจ เพราะว่าเอเป็นคนทุ่มให้กับการเรียนมากๆ เลยปรึกษาเพื่อนๆของเอ ว่าเอเป็นยังไง อยู่ รร สบายดีไหม? เพราะว่า เอกะตะวันอยู่คนละ รร เลยไม่รู้ว่าตอนเขาอยู่ รร กับต่อหน้าที่คุยกัน เขาต่างกันหรือเปล่า ? แต่เพื่อนๆ ของเอ ก็ต่างบอกว่า เอก็เป็นคนแบบนี้แหละ อย่าคิดมากๆ ตะวันเลยไม่มีอาการสงสัยเลย ว่าแท้จริงแล้ว เขากลับไปคุยกับแฟนเก่าของเขา.... และวันนั้น ตะวันได้มีโอกาสฟ้อนที่งานเชียงใหม่ (เป็นช่างฟ้อนของ รร ) แล้วได้นอนค้างบ้านอาจารย์ที่จัดงาน และคืนนั้น ตะวันก็โทรไปอีก แล้วไม่รับสาย แถมตัดสายทิ้ง พิมพ์ข้อความใน face ก็ไม่ตอบ เลยตัดสินใจพูดคำแรงๆ เข้าไปใน ข้อความแชท ด้วยอารมณ์ที่ว่า เครียด และอยากรู้คำตอบจากปากเขาเองโดยตรงๆ และปรากฏว่า เขาเป็นอย่างที่ตะวันคิดไว้ เขาได้แต่ขอโทษผ่านบทความแชท ที่ไม่มีน้ำเสียง อยากบอกมาก ว่าวันนั้นทั้งเหนื่อย ทั้งหอบ งานฟ้อนเลิกดึกมาก ไหนต้องมาเคลียร์เรื่องเออีก ตอนนั้นตะวันคิดอะไรมากไม่ได้ ไม่อยากฟุ้งซ่าน เพราะตะวันมารับงาน ไม่อยากให้เพื่อนๆ ต้องมาเครียดเพราะตะวัน เลยได้แต่ทำใจ ปล่อยใจไปชาๆ กับข้อความขอโทษที่ฟังไม่ขึ้น.. (เดี๋ยวมาอ่านต่อนะค่ะ